Post by

sakkasem suwandee

Cyborg psychology งานวิจัยเกี่ยวกับ AI มาช่วยมนุษย์เรื่อง Wisdom Wonder Well-being

Published on

31990:20986fb83e775d96d188ca5c9df10ce6d613e0eb7e5768a0f0b12b37cdac21b3:1700732875747

Oct 22, 2024

สรุปงานวิจัย AI กับ มนุษย์ ที่จะช่วยให้เรามีศักยภาพมากขึ้นได้ยังไง

สวัสดีครับเราอยากมาสรุป

จิตวิทยาไซบอร์ก งานวิจัยระดับโลกโดยคนไทย | The Secret Sauce EP.786
https://youtu.be/tVgQLnla2cg?si=NRJKIAr9E2ceoW2G

สัมภาษณ์
ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร (พีพี)
Co-director, MIT Advancing Human-AI Interaction (AHA)

ฟังจบเราว่ามีความน่าสนใจมากๆเกี่ยวกับการทดลอง AI เเละ มมนุษย์
ทำให้เรา React กับ AI หรือใช้งานเปลี่ยนไปก็ได้

Cyborg psychology คืออะไร

คือเป็นการทำให้เทคโนโลยีอยู่ร่วมกันของมนุษย์
มาช่วยให้มนุษย์มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น โดยเหมือนเป็นอวัยวะนึงของร่างกาย
(เหมือนหนัง Sci-Fi มาก)

ทำให้เรา Empower มากขึ้น

มี AI (Artificial Intellegence) คือการทำให้คอมพิวเตอร์ฉลาดเเบบมนุษย์
แต่ IA (Intelligence Augmentation) คือเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์ฉลาดขึ้น
(คนละเเบบกันนะ)

ซึ่งงานวิจัยของคุณ พีพี ตอบโจทย์ 3 คำนี้

Wisdom สติปัญญา
Wonder ความสงสัยใคร่รู้
Well-Being การเป็นอยู่ที่ดี

Wisdom สติปัญญา

image

การที่คนเก่งกับ AI เก่งไม่ได้แปลว่าผลลัพธ์จะดี (อ้าว)

คุณพีพียกตัวอย่างว่า

  1. คุณหมอกับAI มาทำงานร่วมกัน รักษา คนไข้ กลายเป็นว่า คุณหมอ Relying คำแนะนำของ AI ไปเลย
    (เหมือนเชื่อคำเเนะนำของ AI ทำให้ปิดการวิเคราะห์ของทางคุณหมอเเทน)
    ทางที่ดีกว่าควรที่จะนำคำเเนะนำของคุณหมอ กับ AI มาเทียบกัน
    ถ้าต่างกัน ก็ต้องหาว่าเพราะอะไร

  2. คำถามคือAI จะให้ Critical Thinking ได้ยังไงจากการทดลอง
    Frame คำถาม เเละ ให้ AI ตอบเราเป็นคำถาม ดีกว่า ให้เป็นคำตอบ จะช่วยเรื่อง Critical Thinking ได้ดีกว่า
    ช่วยให้เราคิดต่อ เเละตอนนี้พยายามให้เจ้าใหญ่ๆ Train ให้ AI ตอบกลับเราเป็นคำถามมากขึ้น

  3. อีกตัวอย่างที่น่าสนใจคือทดลองให้ AI ช่วยเราเรื่อง Fact check โดยเช็คจากโครงสร้างภาษา

    ความเป็นเหตุเป็นผล ตรรกะวิบัติ

    ทางคุณพีพี ยกตัวอย่างเช่นประโยคที่ว่า

  • จบปริญญาเอกจากมหาลัยชื่อดัง มีผู้วิเศษมารับรอง *

    ผู้วิเศษมันไม่เกี่ยวข้องกับปริญญาเเน่ๆ ซึ่งสิ่งที่ต้องการคือให้ AI ช่วยเราวิเคราะห์จับความสัมพันธ์ให้เรา
    ให้เกิดความ เอ๊ะ เเต่ไม่ใช่บอกให้เราเชื่อพอเรา เอ๊ะ จะทำให้เราคิดต่อ

Wonder ความสงสัยใคร่รู้

image

AI มาช่วยให้เราอยากเรียนรู้ สนุกกับการเรียน ยกตัวอย่าง

  1. อยากเรียนวิทยาศาสตร์ถ้าเราสร้างคาเเรกเตอร์ ไอน์สไตน์ มาสอนเเทนจากการทดลองบทเรียนเดียวกัน
    เเต่เปลี่ยนคาเเรคเตอร์ที่มาสอนทำให้ความสนใจการเรียนดีขึ้น อาจใช้กับคนดังคนอื่นได้ (หรือให้ลิซ่ามาสอนเต้นก็ได้)

  2. อีกเคสคือ เเบ่ง ผู้ทดลองเป็น 2 กลุ่ม
    กลุ่มเเรก ให้ข้อมูลว่า AI มาเป็นที่ปรึกษา มาช่วยงาน
    กลุ่มที่สอง ให้ข้อมูลว่า AI มาโกหก มาหลอกขายคอร์ส
    โดย AI ที่ตอบคำถามเป็นตัวเดียวกัน
    ซึ่งผลการทดลอง

    กลุ่มเเรกผลคือ เราจะคุยเเบบ Positive ทำให้ AI ตอบเเบบ Positive ด้วย
    กลุ่มที่สอง คือตรงข้ามเกัน ผู้ทดลองจะคุยเเบบมีอคติ Negative AI ก็จะตอบเเบบ Negative กลับมาเป็น Feedback loop

    ซึ่งจากการให้ข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน เป็นการ ปักสมอง ต่อสิ่งนั้นทำให้เรา มี Bias ที่ต่างกัน

    ผลสรุปคือ AI เป็นกระจกสะท้อนตัวเรา หมายความว่า เราคุยเเละตั้งคำถามกับมันยังไง มันจะสะท้อน ตัวเรามากเท่านั้น
    ถ้าเราตั้งคำถามเก่ง ผลลัพธ์มันก็จะออกมาดี ถ้าถคำถามไม่ดีมันก็จะได้ผลลัทธ์ตรงกันข้าม หรือถามเเบบทั่วไป คำตอบก็จะมาเเบบทั่วไป ไม่ได้ลึกซึ้ง

  3. งานทดลองFutureyou การเติบโต

    image

    https://futureyou.life/ (สามารถไปเล่นตามลิ้งค์ได้เลย)
    การทดลองให้เราเห็นอนาคตของตัวเราเอง
    ซึ่งผลของมัน พอเราเห็นเป้าหมายเเล้วทำให้เราตัดสินใจโดย ยึดผลระยะยาวมากขึ้น

  4. โขนกับAI
    ถอดรหัสโขน ซึ่งที่ต้องศึกษาเพื่อไม่ให้สิ่งนี้หายไป
    เพราะ data ของ AI มีเเต่ส่วนของตะวันตก ในเเง่พื้นถิ่น ไม่มีเลยหรือน้อยมาก
    จึงเกิดโปรเจคนี้ เพื่อให้ AI มีข้อมูลสิ่งนี้อยู่เเละทำการ Develop สิ่งใหม่ๆจากวัฒนธรรมเดิมด้วย
    เช่น ออกเเบบท่าทางใหม่ๆของโขน

    รวมถึงภูมิปัญญาท้องถื่น ก็จะต้องรักษาไว้

Well-Being การเป็นอยู่ที่ดี

image

ได้อธิบายเรื่องsocial attraction
เช่น งาน LGBT ลองให้ AI สร้างสถานการณ์ จำลองซ้อมคุย กับ คนที่ไม่ชอบ LGBT เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
หรือจะเป็นการจำลองสถานการณ์ต่างๆก็ได้

อนาคตต่อไปของ AI

คุณพีพีสนใจคำว่า Mechanistic Interpretability
การเข้าใจการทำงานของ Deep learning
คล้ายๆดูการทำงาน ของสมอง ดูว่า AI ใช้ข้อมูลส่วนไหนมาตอบเรา

สิ่งนี้เข้าใจไปเพื่ออะไร

เป็นความต้องการที่จะสร้าง Dashboard ของ AI ขึ้นมาเหมือนกับหน้าปัดรถยนต์ว่าน้ำมันจะหมดยังความเร็วเท่าไหร่

เเต่อันนี้เพื่อให้รู้ว่าคำตอบที่ AI มาตอบเราใช้ข้อมูลจากส่วนไหนบ้าง
เพื่อเเก้ไข Bias ของ AI

อีกคำถามที่สำคัญ
AI สามารถหลอกคนได้ ต้องเข้าใจก่อนว่า AI ไม่สามารถ Automation ทำเองได้ต้องมีมนุษย์คอยไกด์มันในการป้อนข้อมูล

สรุป

เราว่า AI จะมาช่วยเรามากว่า AI จะมาเเทนเรา เราครที่จะเรียนรู้การใช้งานที่ถูกต้อง
สิ่งที่สำคัญคือการตั้งคำถาม จะช่วยให้เราได้คำตอบที่ดี
ซึ่งต้องมอง AI เป็นผู้ช่วยของเรา

ถ้าใครอยากดูตัวเต็ม สามารถดูในลิ้งค์ด้านบนได้เลยครับ

0

0
0
0